6 วิธีออกกําลังกาย "หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วน"
วันนี้เรามี 6 วิธีออกกําลังกาย ให้ หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนค่ะ คุณผู้หญิงคนไหนที่ยังไม่เบื่อกับ วิธีออกกําลังกาย ล่ะก็เราของท้าให้คุณลอง 6 วิธีออกกําลังกาย ของเราค่ะ แล้วคุณจะได้มี หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนอย่างที่ใจคุณต้องการเลยค่ะ เรียกได้ว่าห่างไกลไขมันหรือน้ำหนักที่กวนใจคุณไปได้เลยค่ะ ด้วย 6 วิธีออกกําลังกายนี้นอกจากจะทำให้หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนแล้วประเด็นหลักของวิธีออกกําลังกายนี้ต้องการให้คุณนั้นมีหน้า ท้องแบนราบ ไหล่และแขนเข้ารูป ต้นแขนกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขาเรียวสวย สะโพกกลมกลึง ระบบไหลเวียนในร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญนะค่ะวิธีออกกําลังกายนี้ยังไม่ยุ่งยากแถมใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่า นั้นค่ะ นั้นเรามาเริ่ม 6 วิธีออกกําลังกาย กันเลยดีกว่าค่ะ6 วิธีออกกําลังกาย
1.หน้าท้องแบนราบ
เริ่มด้วยการนอนคว่ำลงกับพื้นให้แขนด้านในและหัวเข่าชิดพื้นไว้ จากนั้นค่อย ๆ ชันศอกทั้งสองข้างขึ้นยันพื้นไว้โดยให้แขนทั้งสองข้างนี้แยกออกจากกัน ความกว้างประมาณสะโพก พร้อมกันนั้นให้ใช้ปลายนิ้วเท้ายันพื้นไว้ให้ลำตัวลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ออกแรงบริเวณหัวไหล่กดลำตัวลงสู่พื้น พยายามเกร็งนิ้วเท้าและแขนด้านในไว้อย่าให้ลำตัวติดพื้น กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องจะตึงขึ้นทรงตัวให้อยู่ในท่านี้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำประมาณ 3-4 ครั้ง หรือให้ครบ 1 นาทีก็ได้
2.แขนและหัวไหล่เข้ารูป
ท่าชกลมนี้สามารถทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้ไม่แพ้ท่าอื่น ๆ เริ่มด้วยท่ายืนแยกเท้าความกว้างประมาณสะโพก ก้าวขาซ้ายไว้ด้านหน้าขาขวาเล็กน้อยโดยบิดส้นเท้าซ้ายเข้าด้านในเล็กน้อย ปลายเท้าขวาหันออกไปด้านหน้า ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้ข้อศอกแนบลำตัวไว้กำมือไว้ให้แน่นและวางไว้ใน ตำแหน่งใต้คาง ปล่อยหมัดขวาแย็บออกไปด้านหน้าพร้อมเหยียดขาขวาให้ตึงด้วย ระหว่างนี้อย่าลืมบิดสะโพกไปด้านขวาเล็กน้อยหมัดที่ปล่อยออกไปพยายามเหยียด ให้ตึงและฝ่ามือคว่ำลง จากนั้นให้สลับหมัดเป็นอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วหมัดข้างที่ดึงกลับให้กลับ มาไว้ที่ตำแหน่งใต้คางเช่นเดิม
3.ต้นแขนกระชับ
อุปกรณ์เสริมที่ต้องนำมาใช้สำหรับท่านี้ก็คือ ดัมเบลล์ค่ะ เมื่อเลือกดัมเบลล์ที่เหมาะสมแล้วให้ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกประมาณสะโพก โดยให้ฝ่ามือที่ถือดัมเบลล์หันเข้าลำตัว ก้าวขาขวาไปทางด้านหลังและยกส้นเท้าไว้เหนือพื้นค่อย ๆ งอเข่าขวาลงให้อยู่ในระดับข้อเท้าซ้าย จากนั้นค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาระดับหัวไหล่โดยให้ฝ่ามือหันเข่าหัวไหล่ค่อย ๆ ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะทำซ้ำท่านี้ โดยสลับข้างขาไปเรื่อย ๆ ประมาณ 8-12 ครั้งค่ะ
4.เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อขา
นอนหงายบนพื้นราบงอเข่าซ้ายขึ้นค่อย ๆ ดึงหัวเข่าขวาให้ชิดกับหน้าอก จากนั้นค่อย ๆ เหยียดขาขวาขึ้นตั้งฉากกับพื้นช้า ๆ โดยใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณต้นขาไว้ เพื่อช่วยในการทรงตัว ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จากนั้นจึงเริ่มทำซ้ำอีกครั้งโดยสลับทำอีกข้างหนึ่ง
5.ขาเรียวสวยพร้อมสะโพกกลมกลึง
ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกเล็กน้อยวิ่งอยู่กับที่ โดยระหว่างที่วิ่งให้ยกหัวเข่าสูงเท่าที่จะทำได้ แกว่งแขนสลับข้างไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการวิ่ง วิ่งไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อกล้ามเนื้อขาและสะโพกที่กระชับมากยิ่งขึ้น
6.กระตุ้นระบบไหลเวียนในร่างกาย
ท่าบริหารนี้ไม่ยากสักเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองค่ะ เพราะท่านี้ก็คือการเต้นสะบัดร่างกายทั้งตัว เพื่อเพิ่มการไหลเวียนในร่างกาย อาจจะเปิดเพลงประกอบลีลาก็ได้ค่ะ เช่น เพลงฮิปฮอป ร็คแอนด์โรล รับรองว่าทั้งสนุกและช่วยให้แข็งแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวค่ะ
อย่าลืมนะคะว่า ควรออกกำลังกายให้สนุกควบคู่ไปกับการทานอาหารให้สมดุลรับรองค่ะว่าคุณสาว ๆ จะมีหุ่นเฟิร์มสวย และแข็งแรงไม่แพ้สาวคนอื่น ๆ แน่นอน เห็นไหมคะว่าจะสวยทั้งทีไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย จริงไหมคะ?
ข้อมูลจาก สวยด้วยแพทย์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
วิธีลดนํ้าหนักที่ถูกต้อง!!
posted on 23 Mar 2010 00:22 by kokorochanวันนี้ขอมาแนว "ความรู้หน่อย"
ที่จริงก็ขี้เกรียจเขียนนะ
แต่ไปเห็นหลายๆบล็อค ที่อัพเกี่ยวกับการลดนํ้าหนัก
เห็นแล้ว ทําให้ตัวเองต้องอัพ
บอก เพื่อนๆน้องๆหลายๆคนที่อยากลดนํ้าหนัก
ก่อนอื่นนี้เป็นผลจากการที่เราเคยทํามาแล้วและเพื่อนๆเราก็ทํากันด้วย
และเราไม่ใช้ "หมอ"
เราจะพิมตามความที่เราเข้าใจ+หาข้อมูลจาก Net เพิ่มเติม
กรุณาดูอย่างมีสติ
วิธีการลดนํ้าหนักที่ถูกวิธี
อย่างแรก เลยอยากจะบอกว่า
หยุดอดอาหารซะ
เป็นสิ่งที่เราเห็นหลายคนมาก ที่ทํากัน แล้วมาบอกต่อๆกันว่าได้ผล
อด เช้ากินมื้อ อดตอนเย็น
เราอยากจะบอกว่า
การ อดอาหาร ไม่ช่วยให้คุณลดนํ้าหนักได้เลย
มินําซั้า ยังทําให้คุณอ้วนยิ่งกว่าเดิมด้วย!
เพราะอะไรหรอ
1. การอดอาหาร เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพราะ
2. การอดอาหาร เป็นการ ทรมานตัวเอง
3. การอดอาหาร ไม่ว่าจะกี่มื้อ แต่พอถึงเวลากิน คนเราจะกิน "เยอะ"กว่าปกติ
เพราะอะไร เพราะ "หิว" ใช้เพราะความหิวนี้แหละ จะทําให้คนเรากินเยอะ
และไม่ได้ช่วยให้ลดความอ้วนลงเลย
4. การอดอาหาร ทําให้ เกิดโรคเครียด / เสียสุขภาพจิตอีกด้วย
แล้ววิธีไหน จึงจะลดนํ้าหนักได้ถูกต้อง
และ "ไม่เสียเงินด้วย!!"
อย่างแรก คือ
"ใจ"
คุณต้องควบคุมจิตใจของตัวเองให้ได้
โดย มุ่งมั่น แนวแน่ และไปให้ถึงเป้าหมาย
4อย่างที่ควรจะทํา การ ลดนํ้าหนักอย่างถูกวิธี
1. การควบคุมอาหาร
2. การออกกําลังกาย
3. การเปลียนแปลงพฤติกรรม
4. ปรึกษาแพทย์
เราจะอธิบาย คร่าวๆ นะ
การลด ที่ถูกต้อง
คือ ต้องไม่อดอาหาร เรา ควร กิน แบบปกตินี้แหละ 3มื้อ
แต่ ลด อัดตรา อาหารลง สัก20%
ตื่นเช้ามา คนเราต้องการพลังงานอย่างมาก ในช่วงเช้า ไม่ว่าจะเรียน จะทํางาน
สมองเราจะทํางานได้ดีในช่วงเช้า
เพราะฉะนั้น
ช่วงเช้า กินไปเถอะ กินให้เยอะ เพื่อลด ความอยาก อาหาร ช่วงกลางวันและเย็น
ไม่ต้องกลัวอ้วน แต่ควรเลี่ยง
1.อาหารมันๆ ทอดๆ
2. อาหารประเภท แป้ง
มื้อเที่ยง ควรกิน อาหารที่มีสีสั้น จําพวก ผัก
เลือก กินอาหาร ที่ผ่านกระบ่วนการน้อยที่สุด อย่าง
ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก ผลไม้
ถ้าหาก อยากกินของหวาน ให้กิน จําพวก ที่มี ผลไม้ ประกอบด้วย
หรือเป็น พวก ผลไม้แห้ง ก็ได้
มื้อเย็นๆ ก็เช่นกัน กินปกติ แต่ลดปริมาณลง และ ไม่กินของมันๆ กินของต้มๆ
และสามารถกินขนมหวานได้ แต่บังคับตัวเองให้กินได้แค่1อย่าง
และเลือกที่แคลรอรี่ น้อยๆ
ส่วนการกินอาหารให้ตรงเวลาจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลและทำงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย เวลาเรากินอาหารทุกครั้งจะมีฮอร์โมนอินซูลิน
ที่ควบคุมน้ำตาลปล่อยออกมา ถ้าไม่กินให้ตรงเวลาเมื่อฮอร์โมนทำงาน
ก็อาจทำให้เรารู้สึกโหยๆ มือสั่น อยากกินของหวานๆ
และเมื่อยิ่งกินของหวานก็ยิ่งอ้วน ดังนั้นควรกินอาหารให้ตรงเวลาดีที่สุด
เทคนิค การกิน อย่างนึงคือ
การ เคี้ยว ช้าๆ
อย่ามองข้าม เพราะจะทำให้กินได้น้อยลง
เมื่อตักเข้าปากเคี้ยวให้ละเอียดอย่างน้อยเคี้ยวให้ได้ 15 ครั้ง
แต่ถ้าทำได้เคี้ยวคำละ 32 ครั้ง จะดีเยี่ยม แล้วค่อยกลืน
จะสังเกตได้ว่าคนที่เคี้ยวเร็วๆ กินเร็วๆ ส่วนใหญ่จะได้ปริมาณ และทำให้อ้วน
การออกกําลังกาย
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่โดยส่วนมาก จะไม่ค่อยอยาก ออกกําลังกายกัน
แต่การที่ เรา เดินขึ้นบันได แทนลิฟท์ นั้นก็คืออการ ออกกําลังกายอย่างนึง
ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น ไขมันส่วนเกินก็จะถูกเผาผลาญไปด้วย
รูปร่างส่วนต่างๆ ก็จะกระชับ ทั้งแขนขาเป็นกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน
ซึ่งการเผาผลาญอาหารนั้นจะเกิดที่บริเวณกล้ามเนื้อมากกว่า
หากมีไขมันมากกว่า กล้ามเนื้อ การเผาผลาญก็จะน้อย แต่หากว่าออกกำลังกายไปเรื่อยๆ
กล้ามเนื้อก็จะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นแทนที่ไขมันมากขึ้น
ทำให้การ เผาผลาญอาหารดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
นอกจากเพื่อการลดน้ำหนักแล้ว การออกกำลังกายยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย
1. ช่วยให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ
ของร่างกายได้อย่างทั่วถึง ทำให้สมองแจ่มใส ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย
เพราะเลือดไปสูบฉีดหล่อเลี้ยงมากขึ้น
2. ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ป้องกันดรคหัวใจเวื่อมสภาพ
3. ป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัวหรือเปราะได้ และช่วยให้เส้นเลือดฝอยมีความยืดหยุ่นดีขึ้น
4. ช่วยให้ปอดแข็งแรง ทำให้การหายใจสะดวกขึ้น
5. ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี หมดปัญหาเรื่องท้องผูก
6. เพิ่มความแข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทานโรค
7. ช่วยให้ข้อต่างๆ แข็งแรงไม่เป็นโรคปวดเมื่อยหรือกระดูกเปราะหักง่าย
8. ช่วยให้กล้ามเนื้อต่างๆ มีความยืดหยุ่นดี
9. ช่วยให้สัดส่วนต่างๆ กระชับ ไม่เกิดไขมันได้ง่าย
ทางส่วนด้านจิตใจก็มีผล ยิ่ง
เครียด ยิ่งอยากกิน แนะนําว่า ควร ใช้ชีวิตให้สดใส อารมณ์ดี
ก็จะทําให้ จิตใจ และสุขภาพดีด้วย ไม่เกิดสิ้วด้วยนะ
สุดท้าย
ไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักบ่อยๆ การชั่งน้ำหนักทุกวันนี่ห้ามเด็ดขาดนะ
เพราะการลดน้ำหนักที่ถูกต้องจริงๆ จะลดได้ประมาณ 0.5 กิโลกรัม/สัปดาห์เท่านั้น
ถ้าชั่งทุกวันก็จะเกิดความท้อใจ ทำให้ไม่อยากลดต่อ
ดังนั้นควรชั่งสัปดาห์ละครั้งก็พอที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลง
เพื่อจะมีกำลังใจต่อเนื่อง อย่าหวังว่าจะผอมในพริบตา
เพราะกว่าจะอ้วนขึ้นมาได้สะสมมาเป็นปีไม่ใช่กินทีเดียวอ้วนขึ้นมาเลย
และเป้าหมายลดลง 50 % หรือครึ่งหนึ่งของน้ำหนักเดิมก็เป็นไปไม่ได้แน่นอนเช่นกัน
เพียง 5-10 % ก็พอแล้ว แต่หากว่าในหนึ่งปีคุณเกิดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทีละ 5-10 กิโลกรัม
อย่างนี้ผมขอแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์
เพราะตามปกติของคนเราเพิ่มขึ้นปีละ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น
แสดงว่าอาจมีปัญหาทางสุขภาพก็เป็นได้
เช่น โรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง หรือยาบางชนิดที่ทำให้อ้วน แบบนี้ต้องรีบแก้ไขโดยแพทย์
เครดิต ข้อมูลเพิ่มเติม
http://dietdiary.is.in.th/?md=content&ma=show&id=7
http://www.1choice2u.com/
หวังว่าใครที่อยาก ลด ความอ้วน ลองไปทําดูนะ
ที่สําคัญ อย่ากิน ยาลดความอ้วน นะ!
เป็นวิธีลดความอ้วนแบบ ธรรมชาติและไม่ต้องเสียเงินด้วย
อิดิท
เห็นมีคอมเม้น ว่า ลองกินแบบพระสงฆ์ ที่ไม่รับ ฉัน มื้อเย็น
ลองสังเกตุ พระสงฆ์ แต่ละท่านนะคะ
"อุดมสมบูรณ์มากๆคะ^ ^"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น